บันทึกการเรียน ครั้งที่8

วันจันทร์ ที่5 มีนาคม 2561

Knowledge

        อาจารย์ทบทวนเนื้อหาที่ได้เรียนในแต่ละครั้งที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจและสรุแต่ละหัวข้อก่อนที่จะดำเนินการเรียนการสอนสู่ขั้นตอนต่อไป คือการเขียนแผนและสาธิตวิธีการสอนจริงในแต่ละกิจกรรม 

       •ทำไมระดับชั้นปฐมวัยจึงประกอบไปด้วยหัวข้อ 

1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
2.บุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
3.ธรรมชาติรอบตัวเด็ก
4.สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

      •ทำไมถึงไม่มีการกำหนดเนื้อหาเพิ่มเติมอื่น ๆที่จะต้องใช้เป็นแนวทางในการสอนเหมือนกับระดับชั้นทั่วไป 

      เพราะว่า 

1.บริบทของโรงเรียนมีความแตกต่าง หากกำหนดเนื้อหามาให้สอนตามแบบแผนนั้น อาจจะไม่สะดวกหรือไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ชุมชน ที่เด็กอาศัยอยู่ บางกิจกรรมอาจจะต้องใช้วัสดุที่มีในภูมิภาคอื่นไม่มีในภูมิภาคของตน หรือเป็นสิ่งที่เด็กไม่เคยพบเห็นมาก่อน ก็จะทำให้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาเด็ก เด็กก็จะเรียนรู้ได้ไม่เต็มที่ เกิดการเรียนรู้ที่ไม่สมบูรณ์ หากจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนหรือที่เด็กอาศัยอยู่เด็กก็จะเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง 

2.ความต้องการและความสนใจของเด็ก เพราะการพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้น การเรียนการสอนนั้นต้องยึดเก็กเป็นศูนย์กลาง ครูผู้สอนต้องเปิดโอกาสให้เด็กแสดงความคิดเห็นความรู้สึกสึกนึกคิด บอกความสนใจความต้องการของตนเอง เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของเด็ก เด็กก็จะให้ความร่วมมือ ให้ความสนใจ หากสอนในสิ่งที่เด็กไม่อยากรู้ไม่สนใจ ก็อาจจะเกิดเป็นอุปสรรคในการเรียนการสอนของครูประจำชั้น และเรื่องราวที่จะนำมาสอนเด็กนั้นต้องเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเด็ก ไม่ไกลตัวจนเกินไป อาจจะเป็นเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์บ้านเมือง หรือเป็นเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อเด็ก เพื่อให้เด็กรู้จักวิธีการปรับตัว และเลือกปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม

กรอบมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

กรอบมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์

การเรียนรู้คือ พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง การปรับพฤติกรรมของคน สิ่งที่เด็กปฐมวัยเรียนรู้ผ่านการเล่น การลงมือกระทำด้วยวัตถุผ่านประสาทสัมผัสทั้ง5

การเรียนรู้แบบบูรณาการ(Integrated Management) หมายถึง กระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามความสนใจ ความสามารถ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาสาระของศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สามรถนำความรู้ ทักษะ และเจตคติไปสร้างงาน แก้ปัญหาและใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง

กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ

  -การเคลื่อนไหวแบบอยู่กับที่ เช่น ก้ม บิดตัว โยก เอน ลุก นั่ง 

  -การเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ เช่น เดิน วิ่ง กระโดด ควบม้า

จุดประสงค์ของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
-พัฒนาทุกส่วนของร่างกายให้ได้เคลื่อนไหวอย่างสัมพันธ์กัน
ให้เด็กได้ผ่อนคลายความตึงเครียด
-ให้เด็กได้รับประสบการณ์ ความสนุกสนานโดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย
การเตรียมร่างกาย
-ให้รู้จักส่วนต่างๆของร่างกาย
ขณะเคลื่อนไหวให้เด็กรู้ว่าอวัยวะใดที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่

ความหมายและความสำคัญของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
  -กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายย ตามจังหวะอย่างอิสระโดยจังหวะและดนตรีประกอบได้แก่ เสียง ทำนองเพลง ปรบมือ เสียงเคาะไม้ กลอง เป็นต้น

ความเป็นมาของการเคลื่อนไหวและจังหวะ
  -จังหวะธรรมชาติ ได้แก่ กระแสน้ำ ลมพัด น้ำขึ้นน้ำลง
  -จังหวะตามกิจวัตประจำวัน ได้แก่ เดิน วิ่ง ขึ้นบันได

ความสำคัญของการเคลื่อนไหวและจังหวะ
  -มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะปัจจบันซึ่งเต็มไปด้วยการต่อสู้ดิ้นรนควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะช่วยให้บุคคลได้ระบายออกทางความรู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียดได้

องค์ประกอบของการเคลื่อนไหวและจังหวะ
-การรู้จักส่วนต่างๆของร่างกาย
-บริเวณและเนื้อที่
-ระดับของการเคลื่อนไหว
-ทิศทางของการเคลื่อนไหว
-การฝึกจังหวะ

Apply

      การจัดประสบการณ์ให้เด็กได้พัฒนาครบทุกด้าน บรรลุจุดมุ่งหมายตามหลักสุตรนั้น ครุจำเป็นต้องวางแผนการจัดประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมร่วมกับเด็กได้อย่างเหมาะสม และบรรลุผลตามจุดหมายที่กำหนด

Teaching Techniques

     การอธิบาย / การยกตัวอย่าง / การใช้คำถาม

Evaluation

   Teacher   อาจารย์อธิบายและยกตัวอย่างอย่างละเอียดและเข้าใจง่ายในการทำงาน

   Friend   ทุกคนตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายและแต่งกายเรียบร้อย

   Self   ตั้งใจฟังและนั่งอย่างเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้ทำ